ใต้ฟ้าเมืองไทย…เขมรเนรคุณไทย....หรือทหารไทยไม่รักชาติ (ซะแล้ว)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ได้ทรงพระราชทานความช่วยเหลือชาวกัมพูชาที่อพยพหลบหนีความทุกข์ร้อนจากแผ่น ดินที่ลุกเป็นไฟมาโดยตลอด
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอร์ปเตอร์ในช่วงเวลาที่ฝนตกไปยังพื้นที่ชายหาด จ.ตราด ที่มีชาวเขมรอพยพมาอยู่นับแสนคน ทรงย่างพระบาทหลายกิโลเมตรในพื้นที่เปียกแฉะบริเวณซึ่งชาวเขมรอาศัยอยู่ชายหาด โดยที่มีอุจจาระปัสสาวะและกลิ่นเหม็นแต่ก็ไม่ได้ทรงรังเกียจอะไรเลย ชาวเขมรที่อพยพเข้ามาแทบไม่ได้มีทรัพย์สินใดๆติดตัวมา บางคนล้มตัวลงเสียชีวิตต่อหน้าพระพักตร์ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงพระราชทานอาหารสิ่งของเครื่องใช้ จำนวนมากอย่างรวดเร็ว
เด็กชาวกัมพูชาที่ผอมหนังหุ้มกระดูกเหมือนลูกนกอพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร “ผอมหนังหุ้มกระดูกเหมือนยังกับลูกนก” คือกระแสรับสั่งของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเมื่อได้ทอดพระเนตรเห็น เด็กที่ดูแคระแกรนไม่โตตามอายุ และผอมซีดเซียวจนหนังหุ้มกระดูก
สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถได้ทรงชงนมให้ข้าราชบริพารดูเป็นตัวอย่างและรับสั่งว่า คนที่ขาดอาหารถ้าชงนมให้กินเหมือนปกติทั่วไปท้องจะเสียหรือเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ ต้องให้ชงนมชนิดเจือจางที่สุด ป้อนทีละน้อย ให้สภาพร่างกายเคยชินก่อน แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มนมให้เข้มข้นขึ้นจนกระทั่งเหมือนกับคนปกติภายหลัง
สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถได้ทรงชงนมให้ข้าราชบริพารดูเป็นตัวอย่างและรับสั่งว่า คนที่ขาดอาหารถ้าชงนมให้กินเหมือนปกติทั่วไปท้องจะเสียหรือเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ ต้องให้ชงนมชนิดเจือจางที่สุด ป้อนทีละน้อย ให้สภาพร่างกายเคยชินก่อน แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มนมให้เข้มข้นขึ้นจนกระทั่งเหมือนกับคนปกติภายหลัง
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงช่วยเลี้ยงเด็กกำพร้าจำนวนมาก ร่วมกับข้าราชบริพาร โดยให้เด็กๆ นั่งเรียงกันเป็นแถวตักอาหารป้อนกินจนอิ่ม
วันนั้นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงประทับอยู่เป็นเวลานานมากและยังทรงมีรับสั่งด้วยว่า “ด้วยมนุษยธรรมนั้นเราต้องช่วย เมืองไทยเราเองเป็นเมืองพุทธศาสนา” หลังจากเสด็จกลับก็ได้พระราชทานสิ่งของมาช่วยเหลือตามมาอีกจำนวนมาก และได้ทรงตั้งศูนย์สภากาชาดไทย บ้านเขาล้าน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อช่วยเหลือชาวกัมพูชาที่อพยพเข้ามาในดินแดนไทยโดยเฉพาะ
ผ่านไป 3 เดือนเด็กๆชาวกัมพูชาที่เป็นเหมือนลูกนกหนังหุ้มกระดูกก็มีเนื้อมีหลังและ รอดชีวิตทั้งหมด และหลังจากที่ประเทศกัมพูชาได้สงบแล้วชาวกัมพูชาได้ทยอยอพยพกลับคืนถิ่นฐาน เดิมในที่สุด
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์พระบรมราชินีนาถได้เคยมีกระแสพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 26 พฤษาคม พ.ศ. 2552 ว่า:
“ฉันตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ เท่าที่กำลังความสามารถของฉันจะมี”
ประชาชนนานาชาติที่ได้มีโอกาสทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ย่อมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ในช่วงเวลาที่เป็นวิกฤติ ที่สุดของประชาชนชาวกัมพูชาอย่างยากจะลืมเลือน !!!
วันนั้นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้ทรงประทับอยู่เป็นเวลานานมากและยังทรงมีรับสั่งด้วยว่า “ด้วยมนุษยธรรมนั้นเราต้องช่วย เมืองไทยเราเองเป็นเมืองพุทธศาสนา” หลังจากเสด็จกลับก็ได้พระราชทานสิ่งของมาช่วยเหลือตามมาอีกจำนวนมาก และได้ทรงตั้งศูนย์สภากาชาดไทย บ้านเขาล้าน อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อช่วยเหลือชาวกัมพูชาที่อพยพเข้ามาในดินแดนไทยโดยเฉพาะ
ผ่านไป 3 เดือนเด็กๆชาวกัมพูชาที่เป็นเหมือนลูกนกหนังหุ้มกระดูกก็มีเนื้อมีหลังและ รอดชีวิตทั้งหมด และหลังจากที่ประเทศกัมพูชาได้สงบแล้วชาวกัมพูชาได้ทยอยอพยพกลับคืนถิ่นฐาน เดิมในที่สุด
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์พระบรมราชินีนาถได้เคยมีกระแสพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 26 พฤษาคม พ.ศ. 2552 ว่า:
“ฉันตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ เท่าที่กำลังความสามารถของฉันจะมี”
ประชาชนนานาชาติที่ได้มีโอกาสทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ย่อมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ในช่วงเวลาที่เป็นวิกฤติ ที่สุดของประชาชนชาวกัมพูชาอย่างยากจะลืมเลือน !!!
ในตอนนั้น นาง Rosalyn Carter ภรรยาของประธานาธิบดีคาร์เตอร์มาเยือนค่ายผู้อพยพนี้ พร้อมกับ สมาชิกสภาคองเกรส หลายคน ดังมาก เพราะลงข่าวหนังสือพิมพ์ Timeเมื่อค่ายนี้ถูกปิดลงใครจะนึกว่า อีก 30 ปี จะทำให้แผ่นดินตรงนี้ เป็นของเขมร ด้วยเหตุที่ทางการไทย ละเลย ทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และรัฐบาลไทยปล่อยให้ชาวเขมรทำกิน ทำนาตั้งแต่สมัยโน้น ชายแต่งงานกับหญิงเขมร หญิงเขมรแต่งงานกับหนุ่มไทยจนเป็นเครือญาติมานาน นี่แหละน้ำใจคนไทย
วีระบุรุษตาพระยากลายเป็นอดีตทหารไปแล้ว
เพลงยอมตายที่ตาพระยา....เลือดและน้ำตาบ่าท่วมชายแดน.... พ่อกูชื่อนเรศวรมหาราช..!!!
พันเอก (พิเศษ) ประจักษ์ สว่างจิตร หรือที่นิยมเรียกว่า ผู้การประจักษ์ (12 กันยายน พ.ศ. 2480 – 10 กันยายน พ.ศ. 2548) พ.อ. (พิเศษ) ประจักษ์ เป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญของนายทหาร จปร.7 เป็นนักรบอาชีพที่ผ่านการรบมาอย่างโชกโชนในสมรภูมิอินโดจีน ทั้งในเวียดนาม กัมพูชา ลาว เป็นทหารที่ดุดันเอาจริงเอาจังในการตอบโต้การล่วงละเมิดอธิปไตยของไทย จนเพื่อนในรุ่นเรียกว่า "นักรบบ้าดีเดือด" และชาวบ้านบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา ตั้งฉายาให้ว่า "วีรบุรุษตาพระยา"' ท่านเป็นทหารที่รู้ว่าเขตแดนประเทศไทยเป็นอย่างดี..
ทหารปัจจุบัน กลายเป็นทหาร สมานฉันท์ ส่งบรรณาการเป็นกุนเชียงให้เขมร ไปเรียบร้อยแล้ว
"ทหารเป็นกาวใจ สร้างความปรองดองสมานฉันท์ระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐ ทำงานเชิงรุกฟื้นสัมพันธ์ไทย-เขมร แก้ปัญหาพิพาทชายแดนคุกรุ่น"
เตือนลูกน้องเบาๆมือไปก่อน
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า การปะทะดังกล่าวฝ่ายเราเพียงตอบโต้โดยใช้ปืนเล็กเท่านั้น เราไม่ได้ใช้ปืนใหญ่ เพราะพยายามบอกลูกน้องไว้ว่า ช่วยกันนิดนึง หาโอกาสดีๆ แบบนี้ลำบาก ประชาชน 4 หมื่นคน ต้องการกลับบ้าน เขารอเราอยู่ "ผมพยายามรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ การหยุดยิงถาวรคงทำไม่ได้ เพราะเราควบคุมเขาไม่ได้ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด"พล.ท.ธวัชชัยกล่าวะเตือนลูกน้องเบาๆมือไปก่อน (ทหารต้องทำตามคำสั่งผู้บริหาร เท่านั้น)
พล.ท.ธวัชชัย กล่าวอีกว่า การปะทะดังกล่าวฝ่ายเราเพียงตอบโต้โดยใช้ปืนเล็กเท่านั้น เราไม่ได้ใช้ปืนใหญ่ เพราะพยายามบอกลูกน้องไว้ว่า ช่วยกันนิดนึง หาโอกาสดีๆ แบบนี้ลำบาก ประชาชน 4 หมื่นคน ต้องการกลับบ้าน เขารอเราอยู่ "ผมพยายามรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ การหยุดยิงถาวรคงทำไม่ได้ เพราะเราควบคุมเขาไม่ได้ แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด"พล.ท.ธวัชชัยกล่าวะเตือนลูกน้องเบาๆมือไปก่อน (ทหารต้องทำตามคำสั่งผู้บริหาร เท่านั้น)
ใครรานใครรุก ด้าวแดนไทย ไทยรบจนสุดใจขาดดิ้น เสียเนื้อเลือดหลั่งไหล ยอมสละสิ้นแล เสียไปเสียสิ้น ชื่อก้องเกียรติงาม ???
ขนาดรั้วของชาติที่มีสรรพวุธยิ่งใหญ่ไม่เป็นรองใครในภาคพื้นเอเซีย ยังทำได้แค่นี้ แล้วพวกเราที่มีบ้านอยู่ติดเขตชายแดน ก็คงต้องซ้อมมุดรูหนีเขมรต่อไป..........เราจะโทษ เขมร สันดาลเนรคุณ หรือว่าคนไทย เนรคุณแผ่นดินเกิดตนเอง???
คนไทยตามแนวชายแดนต้องอพยพหนีเขมร
ปล่อยให้ชาวบ้านตามแนวชายแดนซ้อมมุดรูหนีเขมรต่อไป.....
พระเมตตาไม่เคยแยกแม้ชาติใด
ตอบลบทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์จงทรงพระเจริญยื่งยืนนาน
ตอบลบ