วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

ภูมิพล "ภูมิพลังแห่งแผ่นดิน"



 “สถาบันพระมหากษัตริย์คือศูนย์รวมจิตใจของคนไทย

ประเทศ ไทยยังคงมีนักการเมืองคอรัปชั่นมากกว่านักการเมืองดี มีนักการเมืองคิดถึงผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม เป็นอย่างนี้มานาน จนถึงปัจจุบันความซับซ้อนของการคอรัปชั่นนักการเมืองไทยยิ่งพัฒนาไปมากยิ่ง ขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยลุ่มๆ ดอนๆ และความอ่อนแอของสังคมไทยยิ่งอาการหนัก จากระบอบทุนนิยมที่เข้มแข็งขึ้น และหลายต่อหลายครั้งบ้านเมืองเกิดวิกฤต และผ่านพ้นไปได้ด้วยพระบารมีของ สถาบันพระมหากษัตริย์
นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยยังเป็น ศูนย์รวมจิตใจของคนไทย อย่างที่มีคนตั้งข้อสังเกตเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ คู่กับสังคมไทยมานาน ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อประเทศชาติอ่อนแอ ตรงกันข้าม ประเทศไทยปัจจุบันมีการพัฒนาทั้งระบบเศรษฐกิจและสังคม มีคนชนชั้นกลางมากขึ้น มีระดับผู้นำทางความคิดในสังคมมากขึ้น เช่นเดียวกับหลายประเทศที่เคยมี กษัตริย์และปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ยังคงอยู่คู่กับประเทศไทย แม้จะมีความพยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นประชาธิปไตย ในปี พ.ศ. 2475 

          เหตุผลพื้นฐานคือ ด้วยรากฐานสังคมไทยที่เคารพเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ที่แม้รัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ คณะผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองก็ยังต้องพึ่งพระบารมีของ สถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นมีศูนย์รวมจิตใจ เพื่อให้ประเทศพัฒนาต่อไปได้ อย่างที่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ต่างยืนยันไว้ว่า ประเทศไทยคือประเทศเดียวในโลก ที่เรียกระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยโดยต่อด้วย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขณะที่ประเทศอื่นแม้จะมี สถาบันพระมหากษัตริย์ก็เรียกเพียงว่าระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งระบอบประชาธิปไตยยังมีอีกรูปแบบหนึ่งคือประธานาธิบดีเป็นผู้นำสูงสุด 
 
เดิมพันของเรานั้นสูง
          ครั้งหนึ่ง เมื่อหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า เคยทรงเหนื่อย ทรงท้อบ้างหรือไม่  ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสตอบว่า ความ จริงมันน่าท้อถอยหรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านคือเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
ข้อมูลจาก ไทยรัฐ ฉบัย 5 ธ.ค.32

ราษฎรยังอยู่ได้
          ปีพุทธศักราช 2513 เมื่อพระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินไป เยี่ยมราษฎรในตำบลหนึ่งของอำเภอเมืองพัทลุง อันเป็นแหล่งที่ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ปฏิบัติการรุนแรงที่สุดในภาคใต้ เวลานั้น ด้วยความห่วงใยอย่างยิ่งล้น ทางกระทรวงมหาดไทยได้กราบบังคมทูลขอให้ทรงรอให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่เป็น อยู่เสียก่อน แต่คำตอบที่ทางกระทรวงมหาดไทยได้รับก็คือ ราษฎร เขาเสี่ยง ภัยยิ่งกว่าเราหลายเท่า เพราะเขาต้องกินอยู่ที่นั่นเขายังอยู่ได้ แล้วเราจะขลาดแม้แต่จะไปเยี่ยมเยียนทุกข์สุขของเขาเชียวหรือ  คน เราจะอยู่สุขสบายแต่คนเดียวไม่ได้ ถ้าคนที่อยู่ล้อมรอบมีความทุกข์ยาก ควรต้องแบ่งเบาความทุกข์ยากของเขาบ้าง ตามกำลังและความสามารถเท่าที่จะทำได้!

ข้อมูลจากคำอภิปรายเรื่อง พระบิดาประชาชน” ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน........

1 ความคิดเห็น: